“วันฉลองแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี” จารึกวีรกรรมอันหาญกล้า

ช่วยแชร์ด้วยนะคะ

วันฉลองแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี” วันประวัติศาสตร์ได้จารึกถึงวีรกรรมอันหาญกล้าของ “คุณหญิงโมและนางสาวบุญเหลือ” ที่ปกป้องอธิปไตยอย่างกล้าหาญ

วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๓๖๙

“วันฉลองแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี” ร่วมกับนางสาวบุญเหลือ เหนือกองทัพลาว

“วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ มี.ค.พ.ศ. ๒๓๖๙” คือ “วันฉลองแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี” คือวันที่ประวัติศาสตร์ราชอาณาจักรไทยได้จารึกถึงวีรกรรมอันหาญกล้าของ “คุณหญิงโม และนางสาวบุญเหลือ” ที่สามารถปกป้องอธิปไตยของชาวไทยไว้ได้อย่างกล้าหาญ สาเหตุเกิดจาก ในช่วงปี พ.ศ. ๒๓๖๙ ในแผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์  โดยเจ้าอนุรุทธราช (เจ้าอนุวงศ์) ผู้ครองนครเวียงจันทร์ ได้ขอเกณฑ์ครอบครัวคนลาว (ที่สระบุรี) ที่ถูกกวาดต้อนมาจากเวียงจันทน์ ในคราวสงคราม ครั้งที่ได้พระพุทธปฏิมากรแก้วมรกตมาประดิษฐานไว้ ณ กรุงธนบุรีนั้น กลับนครเวียงจันทร์ แต่ได้รับการปฎิเสธ  เมื่อไม่ได้ดังประสงค์ก็ก่อการกบฏ โดยยกกองทัพหมายว่าจะลงมาตีกรุงเทพมหานคร  ครั้นถึงวันอังคารที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๖๙ จึงได้เข้าโจมตีแมือง
นครราชสีมา ซึ่งขณะนั้นพระยาปลัดทองคำ (ต่อมาคือพระยาสุริยเดชวิเศษฤทธิ์ทศทิศวิชัย) สามีของคุณหญิงโม ผู้รักษาเมืองไม่อยู่ ด้วยติดปราบการจลาจลที่เมืองขุขันธ์ กองทัพลาวของเจ้าอนุวงศ์ จึงตีเมืองนครราชสีมาได้โดยง่าย แล้วกวาดต้อนพลเมือง ทั้งชายหญิงไปเป็นเชลย รวมถึงคุณหญิงโมและนางสาวบุญเหลือ เมื่อเดินทางมาถึงทุ่งสัมฤทธิ์ เมืองพิมาย มีการหยุดพักตั้งค่ายค้างคืนอยู่ คุณหญิงโมจึงได้ออกอุบายให้ชาวเมืองนำอาหารและสุราไปเลี้ยงดูผู้ควบคุมอย่างเต็มที่ จนเหล่าทหารลาว ต่างก็เมามายไม่ได้สติ หมดความระมัดระวัง และสุดท้ายกองทัพลาวก็แตกพ่ายอย่างสิ้นเชิง จนกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ต้องรีบถอนกำลังออกจากเมืองนครราชสีมาเมื่อ “วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ มี.ค.พ.ศ. ๒๓๖๙” นั่นเอง

ขอขอบคุณข้อมูล : ThePamcity https://www.facebook.com/ThePamcity


ช่วยแชร์ด้วยนะคะ