Home / News / สธ. เปิด รพ.สนาม 100 เตียง ใน จ.สระแก้ว พร้อมจับคู่โรงพยาบาลรับส่งต่อผู้ป่วย รองรับหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น

สธ. เปิด รพ.สนาม 100 เตียง ใน จ.สระแก้ว พร้อมจับคู่โรงพยาบาลรับส่งต่อผู้ป่วย รองรับหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น

ช่วยแชร์ด้วยนะคะ

สธ. เปิด รพ.สนาม 100 เตียง ใน จ.สระแก้ว พร้อมจับคู่โรงพยาบาลรับส่งต่อผู้ป่วย รองรับหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น

โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เผย จัดตั้งรพ.สนามขนาด 100 เตียง 1 แห่ง ดูแลประชาชนที่อพยพใน จ.สระแก้ว พร้อมจับคู่โรงพยาบาลระหว่างเขตสุขภาพเพื่อเตรียมการรับส่งต่อผู้ป่วยหากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น ล่าสุด ปิดโรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงชายแดนไทย-กัมพูชาเพิ่มอีก 2 แห่ง ที่ รพ.อรัญประเทศ และ รพ.คลองหาด จ.สระแก้ว รวมโรงพยาบาลปิดบริการชั่วคราว 12 แห่ง ส่วน รพ.สต. ปิดบริการเพิ่มเป็น 198 แห่ง ย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลพื้นที่ปลอดภัยรวม 634 ราย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

วันนี้ (11 ธันวาคม 2568) ที่ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข (PHEOC) นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมี นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุม ว่า จากเหตุปะทะที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ต้องมีการปิดโรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงใน จ.สระแก้ว เพิ่มอีก 2 แห่ง คือ รพ.อรัญประเทศ และ รพ.คลองหาด จากที่ปิดไปแล้ว 10 แห่ง (รพ.น้ำยืน รพ.นาจะหลวย รพ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี, รพ.กันทรลักษ์ รพ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ, รพ.กาบเชิง รพ.พนมดงรักเฉลิมพระเกียรติฯ จ.สุรินทร์, รพ.ตาพระยา รพ.โคกสูง จ.สระแก้ว และ รพ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์) รวมเป็น 12 แห่ง และปิดบริการบางส่วนอีก 8 แห่ง ได้แก่ รพ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ, รพ.ปราสาท รพ.สังขะ รพ.บัวเชด จ.สุรินทร์, รพ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์, รพ.บ่อไร่ รพ.คลองใหญ่ จ.ตราด และ รพ.จิตเวชสระแก้วราชนครินทร์ พร้อมทั้งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยใน 634 ราย ไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ปลอดภัย ส่วน รพ.สต. ในพื้นที่เสี่ยงขณะนี้ได้ปิดบริการบางส่วน 7 แห่ง และปิดชั่วคราว 198 แห่ง ทั้งนี้ มีการตั้งโรงพยาบาลสนาม 1 แห่ง รองรับได้ 100 เตียง ที่ จ.สระแก้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นพ.เอกชัยกล่าวต่อว่า จากการซ้อมแผนบนโต๊ะ (Table Top Exercise) เพื่อเตรียมการอพยพเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหากสถานการณ์มีความรุนแรงมากขึ้น ได้กำหนดคู่โรงพยาบาลระหว่างเขตสุขภาพในการรับส่งต่อผู้ป่วยและสนับสนุนอัตรากำลังบุคลากร โดยเขตสุขภาพที่ 10 ส่งต่อเขตสุขภาพที่ 8, เขตสุขภาพที่ 9 ส่งต่อเขตสุขภาพที่ 7 และเขตสุขภาพที่ 6 ส่งต่อเขตสุขภาพที่ 4 พร้อมทั้งกำหนดเส้นทาง ระยะเวลาเดินทาง ลำดับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและระดับรถฉุกเฉินที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายอย่างชัดเจน สามารถปฏิบัติการได้ทันทีเมื่อได้รับแจ้งสถานการณ์ สำหรับการดูแลประชาชนทั่วไปในศูนย์พักพิงที่ขณะนี้เพิ่มเป็น 934 จุด ผู้เข้าพัก 258,617 คน เป็นกลุ่มเปราะบาง 46,252 คน ได้ส่งผู้ที่มีอาการป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาลในพื้นที่ปลอดภัย 317 คน จัดทีมปฏิบัติการด้านสุขภาพลงพื้นที่เพิ่มขึ้น ประกอบด้วย ทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ (MERT/Mini-MERT) 43 ทีม ทีมปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินระดับสูง (ALS) 43 ทีม ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค 114 ทีม ทีมปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินและสาธารณภัยด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม 76 ทีม และทีมช่วยเหลือทางด้านจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต 88 ทีม โดยจากการคัดกรองสุขภาพจิตประชาชน 27,413 ราย พบเครียดสูงและเสี่ยงทำร้ายตนเองรวม 388 ราย ได้ให้การปฐมพยาบาลทางจิตใจและส่งเข้ารับการดูแลตามกระบวนการ พร้อมติดตามดูแลใกล้ชิด

 


ช่วยแชร์ด้วยนะคะ
Tagged: