กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยโควิดสายพันธุ์ใหม่ “XFG” หรือ “สเตรตัส”ยังไม่พบอาการรุนแรงย้ำเฝ้าระวังต่อเนื่อง
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์โควิด 19 พบว่า
สายพันธุ์ “XFG” หรือที่เรียกว่า สเตรตัส (Stratus) กำลังกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดทั่วโลก
โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมากกว่า
สายพันธุ์อื่น
นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยตรวจพบสายพันธุ์ XFG ครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2568 และจนถึงวันที่ 24 กันยายน 2568 มีรายงานสะสมแล้ว 33 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในเขตสุขภาพที่ 13 จำนวน 23 ราย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก และปวดศีรษะ และยังไม่มีรายใดต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล


ขณะเดียวกัน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อโควิด 19 อย่างต่อเนื่อง
โดยในช่วง 1 เมษายน – 24 กันยายน 2568 ได้ทำการถอดรหัสแล้ว 608 ตัวอย่าง พบว่าเป็น สายพันธุ์ NB.1.8.1* ร้อยละ 73.7 สายพันธุ์ XEC* ร้อยละ 8.7 สายพันธุ์ JN.1* ร้อยละ 6.4 สายพันธุ์ XFG*
ร้อยละ 5.4 สายพันธุ์อื่น ๆ รวมร้อยละ 5.7
นับตั้งแต่เริ่มการระบาดในประเทศไทยเมื่อเดือนมกราคม 2563 จนถึงปัจจุบัน ประเทศไทย
ได้เผยแพร่ข้อมูลจีโนมของเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ฐานข้อมูลสากล GISAID แล้วกว่า 48,865 ราย
เพื่อสนับสนุนระบบเฝ้าระวังโรคระดับโลก
นายแพทย์ยงยศ เน้นย้ำว่า แม้สายพันธุ์ XFG ยังไม่ก่อให้เกิดอาการรุนแรง แต่ประชาชน
ควรป้องกันตนเองอย่างสม่ำเสมอ โดยล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด และหากมีอาการผิดปกติ
เช่น ไข้ ไอ หรือหายใจลำบาก ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่ :