ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง, พ.ต.อ.ภาคภูมิ ศรีลาภะมาศ,พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ, พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว, พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา, พ.ต.อ.เถกิงวุฒิ กิตติศุภคุณ, พ.ต.อ.จักราวุธ วัฒนศิริ, พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ธนาทัศน์ ศรีพิพัฒน์ ผกก.(สอบสวน)ฯ รรท.ผกก.2 บก.ปคบ., พ.ต.ท.ธีรภพ พันธุชาติ,พ.ต.ท.หญิง สุจิตรา ทองสกุล รอง ผกก.2 บก.ปคบ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.พงษ์พนา กรีฑา สว.กก.2 บก.ปคบ. พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการที่.4 กก.2 บก.ปคบ. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร(สวค.) นำโดยนางสาวเขมิกา เฮ็งสมบูรณ์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการ,พร้อมพวกพฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้รับแจ้งจากว่ามีร้านค้าออนไลน์จำหน่าย วัตถุอันตรายทางการเกษตรปลอมและสารต้องห้าม ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดัง โดยได้เข้าตรวจสอบร้านจำหน่ายปุ๋ยและสารเคมีการเกษตรในพื้นที่จังหวัดลำพูน
จากการตรวจสอบภายในร้านพบสารเคมีการเกษตรซึ่งมีการปลอมแปลงจำนวนมาก รวมทั้งสิ้น 24 รายการ มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
1.กลุ่มสารกำจัดวัชพืช (ฆ่าหญ้า) เช่น
-ไกลโฟเซต ไอโซโพรพิลแอมโมเนียม : สารกำจัดวัชพืชที่ห้ามใช้เกินมาตรฐาน เพราะตกค้างในดิน
-กรูโฟซิเนต–แอมโมเนียม : สารฆ่าหญ้าที่เป็นพิษต่อผิวหนังและระบบประสาท
2.กลุ่มสารกำจัดแมลง (ฆ่าเพลี้ยและแมลงศัตรูพืช) เช่น
-ไซเพอร์เมทริน : สารออกฤทธิ์แรง หากสูดดมหรือสัมผัสอาจเกิดอาการวิงเวียน คลื่นไส้
-อีมาเมคติน เบนโซเอท : สารที่มีพิษสูงต่อสัตว์น้ำและผึ้ง
-แลมป์ 20 EC : ผลิตภัณฑ์ปลอมเลียนแบบยี่ห้อดัง
-โพรฟิโนฟอส และ ไดเมโทเอต : สารออกฤทธิ์แรงหากใช้ไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดพิษเฉียบพลันในคน
3.กลุ่มสารป้องกันและกำจัดโรคพืช (เชื้อราในพืช) เช่น
-ไดฟีโนโคนาเซล + อะซ็อกซีสโตรบิน : สารที่ช่วยป้องกันเชื้อรา แต่ในรูปแบบปลอมอาจมีส่วนผสมของสารต้องห้าม
นอกจากนี้ ยังพบ สารเคมีต้องห้ามตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2563 คือ
-คลอร์ไพริฟอส : สารกำจัดแมลงที่มีพิษต่อระบบประสาท
-พาราควอต : สารฆ่าหญ้าที่อันตรายถึงชีวิต ถูกห้ามผลิตและใช้ในประเทศไทย
ซึ่งสารเคมีทางการเกษตร ถือเป็นวัตถุอันตรายดังกล่าวผู้ใดมีไว้ในครอบครองมีความผิดตามห้ามผู้ใดผลิต นำเข้า หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปีหรือปรับไม่เกินหนึงล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 มาตรา 43 วรรคหนึ่ง,มาตรา74 เจ้าพนักงานชุดดังกล่าวได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิด ตามกฎหมายต่อไป
เตือนภัย เนื่องจากปัจจุบัน ปุ๋ยมีราคาแพง พร้อมกลับเกษตรกรชาวไร่ ชาวสวนก็ต้องการปุ๋ยเพื่อใช้ในการทำสวน ทำไร่ และ ต้องได้รับปุ๋ยที่มีคุณภาพ ดังนั้นจึงอยากให้ชาวเกษตรกรชื้อปุ๋ยที่มีคุณภาพ และมาตรฐานจากกรมวิชาการเกษตร โยการสังเกตดูเลขทะเบียนที่ติดอยู่กับกระสอบปุ๋ยว่าถูกต้องตามที่กรมวิชาการเกษตรออกให้หรือไม่ หลีกเลี่ยงสินค้าราคาถูกผิดปกติ หรือไม่มีข้อมูลแหล่งผลิต เพื่อเกษตรกรจะได้ปุ๋ยที่มีคุณภาพ หากเกษตรพบเห็นปุ๋ยปลอมสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วนคุ้มครองผู้บริโภค 1135
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.พงษ์พนา กรีฑา สว.กก.2 บก.ปคบ.
โทร. 090-9724-642
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่ :
