ศอ.บต. ลุยเจาะมาตรการสกัดกั้น “กระท่อม-กัญชา” – มาเลย์ปฏิบัติการรื้อถอนท่าเรือเถื่อน
ความมั่นคงและเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนใต้ยังคงเป็นโจทย์ท้าทายที่ต้องอาศัยการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ล่าสุด นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศอ.บต. ได้นำทีมลงพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อร่วมหารือและตรวจสอบพื้นที่กับ พ.ต.ท.ธนินณัฏฐ์ ปานะจินาพร สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส และนางสาวอาทิตา แสนเสนาะ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการพิเศษด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย “120 วัน วาระพืชกระท่อม” ตามดำริของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต.

การลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่เพียงแค่เป็นการหารือ แต่ยังเป็นการรวบรวมข้อมูลสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีการจับกุมล่าสุดที่สามารถยึด “ช่อดอกกัญชา” ได้ถึง 4 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 80,000 บาท และอีกครั้งที่จับกุมได้ที่บริษัทขนส่งเอกชน โดยพบช่อดอกกัญชา 1 กิโลกรัม และกัญชาอัดแท่งอีก 10 กิโลกรัม รวม 11 กิโลกรัม มูลค่าเกือบ 50,000 บาท ซึ่งถือเป็นความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน แสดงให้เห็นถึงความพยายามของเจ้าหน้าที่ในการสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายอย่างเข้มข้น
นอกจากความร่วมมือของฝ่ายไทยแล้ว ยังมีรายงานความคืบหน้าที่น่าสนใจจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยเจ้าหน้าที่รายงานว่า ตำรวจรัฐกลันตัน มาเลเซีย ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลท้องถิ่นให้ดำเนินการรื้อถอนท่าเรือเถื่อนจำนวน 128 แห่ง ตลอดแนวแม่น้ำสุไหงโก-ลก ตั้งแต่บริเวณเปิงกาลันกูโบร์ไปจนถึงรันเตาปันจัง โดยจะดำเนินการรื้อถอนทุกท่าเรือ แม้จะอยู่ในที่ดินส่วนบุคคล และจะเริ่มในเร็วๆ นี้ ซึ่งมาตรการนี้คาดว่าจะช่วยลดปัญหาอาชญากรรมข้ามพรมแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตำรวจรัฐกลันตันยังได้เรียกร้องให้มีการเร่งรัดก่อสร้างกำแพงรั้วความมั่นคงตลอดแนวแม่น้ำสุไหงโก-ลก ระยะทาง 45 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยปฏิบัติการตำรวจทั่วไป (PGA) เพื่อเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้แน่นหนายิ่งขึ้น
นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศอ.บต. ได้เปิดเผยถึงการขับเคลื่อนนโยบาย “120 วัน วาระพืชกระท่อม” ว่าขณะนี้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมีการขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ในทุกมิติ โดยเฉพาะพลังของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ที่ออกมาปฏิเสธการใช้พืชเสพติดอย่างเห็นได้ชัด
พ.ต.ท.ธนินณัฏฐ์ ปานะจินาพร สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส กล่าวยืนยันว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรมีมาตรการคัดกรองบุคคลและสินค้าที่จะนำเข้ามาอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะยาเสพติด แม้ที่ผ่านมาจะมีการตรวจพบ แต่ก็ถือว่ายังน้อย และเชื่อว่าอนาคตสถานการณ์จะดีขึ้นอย่างแน่นอน
ด้าน นางสาวอาทิตา แสนเสนาะ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการพิเศษด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก กล่าวเสริมว่า ด่านศุลกากรได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลเรื่องยาเสพติดมาโดยตลอด และยังได้ยกตัวอย่างการจับกุมล่าสุดที่พบช่อดอกกัญชาปริมาณ 4 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 80,000 บาท และอีกครั้งที่พบช่อดอกกัญชา 1 กิโลกรัม และกัญชาอัดแท่งอีก 10 กิโลกรัม รวม 11 กิโลกรัม มูลค่าเกือบ 50,000 บาท ที่บริษัทขนส่งเอกชน “เรามีการปราบปรามเสมอ นโยบาย 120 วัน ถือว่าดี เราในฐานะผู้รับนโยบายก็จะมีความเข้มข้นในการปฏิบัติตามนโยบาย” นางสาวอาทิตากล่าว
การยืนยันจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ได้สร้างความเชื่อมั่นว่า ภาครัฐพร้อมจะดูแลและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่อย่างเต็มที่ “ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ จะเกิดอะไรขึ้นเราไม่ทิ้งกัน” นายธีรวิทย์กล่าว ซึ่งเป็นข้อความที่ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะไม่ทอดทิ้งประชาชนและสร้างความมั่นคงที่ยั่งยืนในพื้นที่ชายแดนใต้ต่อไป