ชวนเดอะแก๊งค์หนีกรุงไปใส่หมวกแก๊บมาเดิน(ห้วย)กุ๊บกั๊บ ชวนกับกิน เที่ยว มานั่งกินฟินๆ ชมสายหมอกพร้อมดริปกาแฟ คือโอ๊ย แม่จ๋าา มันดีงามจนกรีดร้องง.
หลังจากที่ปล่อยให้คนอื่นรีวิวมานาน คราวนี้ได้ไปสักที “ห้วยกุ๊บกั๊บ” พวกเราเลือกพักที่ บ้านซุกกิ๊ก เราไปกันวันเสาร์ต้องจองล่วงหน้า 1 เดือน แก๊งเราเดินทางจากกรุงเทพตั้งแต่เย็นวันศุกร์ด้วยรถไฟ นอนกันไป อ้าวเฮ้ย!! รถไฟมันดีมากอะครับ ตรงเวลา โบกี้ ที่นอน ผ้าห่มสะอาด หลับสบายเลยทีนี้ ตื่นอีกทีก็ใกล้จะถึงเชียงใหม่เลยครับ
“ยินดีแล้วแล้ว แขกแก้วมาเยือน” ใครกล่าวยังหาไม่เจอ555 ด้วยวันเสาร์บ้านที่เราจองคนมานอนเยอะ รถจะมารับเราตอนสี่โมงเย็น โจทย์คือทำไรดีว่ะ งั้นงานถนัดละ กินครับ เริ่มเลอ! อ๋อ เราเลือกเช่ารถเลยครับ เพราะมันคุ้มกว่าที่จะนั่งรถแดง หรือเรียก Grab หลายๆรอบ
น.ก๋วยจั๊บ ร้านนี้เรียกว่าวาสนาต้องกันจริงๆ เพราะตั้งใจจะไปกินข้าวเช้าร้านอื่น แต่ขับรถผ่าน จำได้ว่าเห็นเพื่อนเคยมากิน จอดรถทันทีเดี๋ยวนั้น แล้วคิวว่างเลยไม่ต้องต่อคิว ชอบตั้งแต่เห็นร้านเลยครับ ไม่สวยแต่โดน คนขายก็อินดี้ แต่ท้ายที่สุด อร่อยครับจัดไป 2 ชาม แต่ที่ว๊าวอีกอย่าง ราคาไม่แพงเกินคุ้ม ใครจะมาต้องก่อนเที่ยงนะครับ เห็นร้านแบบนี้แต่หมดเร็วมาก
แก๊งนี้บอกเลย ขาดคาเฟอีนไม่ได้ ร้องหากาแฟกันแล้วครับ ก็เดินไปร้านใกล้ก๋วยจั๊บครับ เราไปนั่งกินกาแฟที่ร้าน Brewginning ถ.ช้างม่อย ถ้าใครนึกไม่ออกก็อยู่ตรงข้ามร้านเครื่องจักรสานครับ กาแฟดีเลยครับ อร่อย หอม ที่ร้านมีมุมถ่ายรูปสวยๆ เท่ให้ลองกันครับ ผมว่าแสงเช้าสวยดีนะ ตาสว่างละทีนี้ขอเดินซนกันหน่อย กรรมไปตกที่ร้านขนมครกแถวนั้น ก็ต่อคิวซื้อธรรมดานี่ละครับแต่เห็นแม่ค้าทำแล้วมันดูท้าทายความสามารถเลยต้องขอลองเป็นคนแคะ เหมาหมดกระทะสิคร้าบบบบ เขาจะเอาไปขายต่อใครได้5555 อย่าหาทำ วุ่นวายพอแล้วเลยต้องไปสงบจิต สงบใจกันบ้างนะวัยรุ่นตอนปลาย ก็เลยเข้าวัดไหว้พระกัน เชียงใหม่เป็นเมืองที่วัดเยอะ พอๆกับร้านกาแฟครับ ลองเลือกตามศรัทธากันเลยครับ พวกผมไปวัดพระสิงห์ โดยส่วนตัวชอบครับ ตัวพระพุทธรูปเป็นศิลปะแบบเชียงแสน ตัววัดเองก็ดูลงตัวนะครับ มีความยิ่งใหญ่และเรียบง่ายอยู่รวมกัน
ยังไม่เที่ยงเลย เอาไงดี นึกขึ้นได้ว่ามีอีกที่ที่น่าไป จริงใจมาเก็ต ครับ อยู่แถวคำเที่ยง เป็นตลาดที่สายคราฟท์น่าจะชอบครับ เสื้อผ้า กาแฟ เครื่องประดับ ผักผลไม้จากเกษตรกร สินค้ามีความน่าสนใจ ดูไม่ Massจนเกินไป สาวๆ ก็เดินดูของ ผมก็นั่งจิบกาแฟเพลินๆไป ตลาดนี้เปิดเฉพาะเสาร์อาทิตย์นะครับ ช่วงบ่ายก็ปิดแล้วครับ ถ้าเอารถมาเองวันอาทิตย์คงแวะซื้อของกลับกันเพียบเลย
เที่ยงละครับ ถึงร้านที่หลายคน recommend ร้าน Khao-so- i ร้านข้าวซอยที่มาในแบบราเมง บอกเลยว่า ดีงามครับ ควรค่ากับการที่ต่อคิวยาวนาน ร้านเล็กๆน่ารัก ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น พนักงานบริการดีมาก ข้าวซอยอร่อยครับ ราคาไม่แพง ใครยังไม่เคยก็ต้องลองนะครับ
กินคาวแล้วต้องตามด้วยกาแฟครับ กาแฟอีกแล้วววว อีกแก้วนึง The Baristro at Ping River เป็นอีกร้านที่ชอบครับ นั่งกินกาแฟกินขนมกันไป ไปหลายคนก็สนุกดีครับ ได้เวลาละ ถึงเวลาเคลื่อนย้ายออกจากตัวเมืองเชียงใหม่สักที ขับรถไปที่แม่แตง วิ่งตรงตามถนนโชตนาไปเรื่อยๆครับ แล้วเลี้ยวซ้ายตรงปางช้างแม่ตะมานก็ขับตรงอย่างเดียว จนถึงจุดที่เรานัดกับรถที่ลงรับครับ ร้านช้างยิ้ม (ย้ำครับ ชื่อร้านช้างยิ้ม) รถที่มารับเป็นรถ 4×4 ครับ เพราะทางที่ขึ้นไปห้วยกุ๊บกั๊บโหดมากกกก ต้อง 4×4 เท่านั้น และคนขับควรชำนาญเส้นทางมาก ก็นั่งกระบะท้ายลุยฝุ่นกันไป ทางโหดตั้งแต่100 เมตรแรกเลยครับ ไม่มีคำว่าเรียบเลย ตับไตไส้พุง มารวมหมดแล้วคร้าบบบบ คอเคร็ดด้วย555 ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็ถึง
และแล้วก็ถึงสักที ห้วยกุ๊บกั๊บ พอถึงบ้านที่เราจองไว้ บ้านซุกกิ๊ก ที่ไม่คิดจะทำตามชื่อ 555 ที่พักมีระเบียงกว้างมากชมวิวได้แบบ 180 องศา สวยมากกกกกวิวหลักล้านจริงๆ หายเหนื่อยเลยครับ ถ่ายรูปสิครับ อย่ารอช้า ที่บ้านมีน้องแมวมารอต้อนรับด้วยครับ ห้องพักเป็นแบบห้องรวมครับก๊วนเราจองไป 2 ห้องครับ ราคาคนละ 800 บาท รวมอาหารเย็น อาหารเช้า และรถรับส่ง นั่งดูวิวเฉยๆ มันจะชิลได้ไง ซักกระป๋องละกัน คอมันแห้ง ฟินเลยคร้าบบบบ พอหายเหนื่อยก็เดินเล่นในหมู่บ้าน หมู หมา กา ไก่ ก็เดินสวนกับเราไปมาตามอัธยาศัย เด็กๆ วิ่งเล่นในหมู่บ้านตามธรรมชาติของเขา เราก็เดินไปถ่ายรูปจุดชมวิวหมู่บ้าน ที่หมู่บ้านเริ่มมีที่พักกับร้านค้า (7-11) ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ก็เริ่มกลัวๆ เหมือนกันว่าเสน่ห์ของที่นี้จะหายไป หวังว่าจะมีคนมาคอยกำกับดูแล แต่เอาเป็นว่า ณ ตอนนี้ มันยังดีอยู่ เราในฐานะนักท่องเที่ยวก็ไปแบบอย่าทำลาย หลังจากเดินเล่นกันเสร็จก็มานั่งหาเครื่องดื่มรอชมพระอาทิตย์ตกที่ระเบียงหน้าบ้าน เป็นระเบียงรวมครับมานั่งรวมกันหลายกลุ่ม แล้วก็ได้เวลากินข้าวเย็น อาหารก็เป็นแบบง่ายๆ ครับ ทานได้ทุกเพศทุกวัย แต่ส่วนใหญ่ทุกคนก็จะสั่งหมูกระทะเพิ่ม อากาศแบบนี้หมูกระทะช่วยได้ อากาศเย็นสบายมากๆ กินเพลินจนลืมอาบน้ำ เอาไงดีว่ะ เขาอุตส่าเตือนไว้แล้ว แต่ลืม เอาว่ะ เป็นไงเป็นกันต้องอาบช่วงนี้ Covid ด้วย รักษาความสะอาดกันหน่อย เชดดดดดดดดดดด นี่มันฆ่าตัวตายชัดๆ แต่แล้วก็อาบน้ำเรียบร้อย แล้วมาล้อมวงหมูกระทะกันต่อ ห้องน้ำถือว่าดีครับไม่ได้แย่เลย พอเริ่มดึกๆหน่วย อีกอย่างที่ผมประทับใจในทริปนี้คือมิตรภาพแบบไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ พอกินหมูกระทะเสร็จความเงียบเริ่มเกิด เราหาคนที่เล่นกีตาร์ได้ โชคดีมีน้องอีกกลุ่มเล่นได้ ทุกคนก็ต่างคนต่างหันหน้าไปผิงไฟ ร้องเพลงด้วยกัน เป็นบรรยากาศที่ดีมาก คือคนที่มานอนบ้านซุกกิ๊กนี่ละครับ มาสามัคคีชุมนุมรอบกองไฟกัน แล้วน้องๆแต่ละคนที่มาพักที่นี่ น่ารักมาก โชคดีของลุงๆ ป้าๆ อย่างพวกเราจริงๆ บอกเลยว่า เสพ 55555 พวกเราก็ว่าเราสนุกแล้วนะ แต่ลุงเจ้าของบ้านสนุกกว่า555 มาล้อมวงกับเราด้วย มาคุย มาเล่าเรื่องฮาๆ เผามันตอนดึกให้กิน ดีจริงๆครับ สักประมาณ5ทุ่มก็แยกย้ายครับ ก่อนเข้านอนขอดูดาวสักนิดละกัน โชคดีที่ดาวเต็มฟ้าครับ นาทีนี้ไม่มีอะไรสุขใจไปกว่าได้ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่นๆละ
เช้าแล้วครับ ไม่อยากตื่นเลยครับ แต่น้องหมอกมาแล้วเราจะพลาดไม่ได้ เป็นอีกหนึ่งความโชคดีที่เช้านี้มีหมอก ถึงจะไม่มากแต่ก็มีพอให้ได้เก็บภาพสวยๆกัน พวกผมเตรียมกาแฟมาด้วย ก็ชมสายหมอกพร้อมดริปกาแฟไปเรื่อยๆ อาหารเช้าก็มา หลวงพ่อก็มา ได้ใส่บาตรด้วยก็เป็นมงคลดีครับ แล้วก็ถึงเวลากลับ ประมาณ 10 โมง เราก็ลงจากห้วยกุ๊บกั๊บ มาทานกลางวัน อาหารพื้นเมืองกันที่ เฮือนม่วนใจ๋ มากี่ครั้งก็อร่อยไม่เปลี่ยน แล้วก็เตร็ดเตร่รอเวลาขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพ พอนึกได้ว่าวันจันทร์ต้องทำงาน แล้วแขนขาอ่อนแรง ยังไงละครับชาร์ตแบตกันมาแล้วทุกคน ทำงานที่เรารักหาเงินไปเที่ยวต่อครับ……สวัสดีเช้าวันจันทร์กับการตรวจ ATK ก่อนเข้าทำงาน ปลอดภัยดีครับ
ข้อมูลผู้เขียนบทความและภาพ : ธนัท ทองแถว
ขอขอบคุณ : เดอะแก๊งค์ใส่หมวกแก๊บมาเดิน(ห้วย)กุ๊บกั๊บ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่ :
