นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และโฆษกสำนักงานฯ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ระหว่างเดือนเมษายน ถึงมิถุนายน 2568 ว่ามีการดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 123 คดี 4,064 รายการ คิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 3,260 ล้านบาท
โดย 1 ในคดีสำคัญที่ถูกดำเนินการเพิ่มเติม คือคดีของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวก ซึ่งเกี่ยวข้องกับความผิดฐานฟอกเงินและฉ้อโกงอย่างเป็นขบวนการ โดยพบทรัพย์สินเพิ่มเติมอีก 25 รายการ รวมถึงสินค้าแบรนด์เนมและสิทธิเรียกร้องตามสัญญาซื้อขายรถยนต์ มูลค่าราว 6 ล้านบาท ซึ่งเป็นการดำเนินการเสริมจากคำสั่งเดิมที่เคยยึดไว้แล้ว 71 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง อีกคดีที่มีความคืบหน้า คือ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก ซึ่งเกี่ยวข้องกับความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน โดยคณะกรรมการธุรกรรมเคยมีคำสั่งยึดทรัพย์สินไว้แล้วถึง 5 ครั้ง รวมมูลค่าประมาณ 450 ล้านบาท และส่งเรื่องให้อัยการยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งแล้ว 2 สำนวน ล่าสุด ปปง. ยังพบทรัพย์สินเพิ่มเติมอีก 281 รายการ ในคดีนี้ เช่น กระเป๋า นาฬิกาหรู ยานพาหนะ และสินค้าแบรนด์เนม รวมมูลค่าอีกกว่า 160 ล้านบาท รวมแล้วเฉพาะสองคดีนี้ มีการดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมรวมกว่า 166 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปปง. ยืนยันจะเดินหน้าขยายผลในคดีฟอกเงินและฉ้อโกงที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ละเว้นผู้เกี่ยวข้องทุกระดับ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่ :
