ทำบุญอย่างไรให้รุ่งเรือง เจริญก้าวหน้าจิตใจที่บริสุทธิ์และร่มเย็น

ช่วยแชร์ด้วยนะคะ

ทำบุญ ให้ชีวิตการงานรุ่งเรือง และเจริญก้าวหน้าเติบโต และมีเรื่องดีๆ เข้ามาอย่างไม่ขาดสาย โดยการทำบุญเสริมรวย ทำด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์และร่มเย็นค่ะ

หมั่นเข้าวัดทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เป็นวิธีง่ายๆ อีกหนึ่งวิธี โดยเป็นการจัดการปัญหาในอดีตให้จบสิ้นไป เพื่อให้เราก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างสบายใจ โดยไม่มีชนักติดหลังหรือกรรมเก่าฉุดรั้งเราไว้อีกต่อไป นอกจากนั้นยังทำให้จิตใจสะอาดผ่องใส มีสมาธิกับการทำงาน เป็นการเตรียมใจให้พร้อมสำหรับชีวิตดีๆ  และเงินทองจะไหลมาเทมาเมื่อเราพร้อมที่จะทำมาหากินด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์และร่มเย็น

สร้างแท่นหนุนพระพุทธรูป  อีกหนึ่งวิธีการทำบุญเพื่อเสริมดวงการเงิน ทำให้ฐานะทางการเงินดีขึ้น คือ การร่วมบุญสร้างแท่นหนุนพระพุทธรูป ซึ่งเป็นฐานอันมั่นคง ผลบุญนี้จะทำให้ผู้ที่สร้างฐานหรือแท่นหนุนพระพุทธรูปมีความมั่นคงและยกระดับฐานะทางการเงินให้ดียิ่งขึ้น หนุนดวงชะตาชีวิตให้ดีขึ้น  เหมาะสำหรับคนที่ดวงตก อับโชค หรือชีวิตตกต่ำมาก

ชำระหนี้สงฆ์ ชีวิตที่ติดขัด มีอุปสรรคด้านการเงิน ทำกินไม่ขึ้น ไม่สามารถปลดเปลื้องวิบากกรรมนั้นได้ ต้องพิจารณาอีกหนึ่งวิธี คือ การชำระหนี้สงฆ์   ซึ่งนอกจากการร่วมบุญบริจาคค่าน้ำค่าไฟให้กับวัดแล้ว การร่วมบุญ ก็จะยิ่งทำให้ชำระหนี้สงฆ์ได้มาก เนื่องจากการสร้างพระพุทธรูปมีอานิสงส์มาก เท่ากับเป็นการสร้างองค์แทนของพระพุทธองค์ ให้สาธุชนได้กราบไหว้ และเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาอีกทางหนึ่งด้วย

ถวายอาสนะ คือการถวายแด่สงฆ์โดยไม่จำเพาะเจาะจงว่าต้องเป็นพระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่ง  ทำให้เกิดอานิสงส์แก่ผู้กระทำมาก ซึ่งต้องทำเป็นประจำ อย่างน้อยๆเดือนละ ๑ ครั้ง โดยเครื่องถวายสังฆทานนั้น ก็มีทั้งปัจจัย ๔ และในส่วนที่เพิ่มเติม ที่จะทำให้เกิดอานิสงส์ช่วยหนุนเรื่องการเงิน หนุนชีวิตให้ดีขึ้น คือ การถวาย “อาสนะ” มีความหมายว่า ที่นั่ง รวมถึงโต๊ะ เตียง ตั่ง ที่นอน เสื่อ สาดต่างๆ เป็นสังฆทานโดยถือคติว่า การถวายวัตถุที่มีลักษณะหนุนให้สูงขึ้น จะช่วยหนุนดวงชะตา ไม่ให้ตกต่ำ ทำให้ชีวิตดีขึ้น

ถวายผ้ารับประเคน เป็นอีกหนึ่งความเชื่อของคนที่ประสบวิบากกรรมเรื่องเงินขาดมือบ่อย หรือได้ทรัพย์มาไม่เต็มที่ โดยถือเอากิริยาของการรับประเคนของ ซึ่งมีผ้าเป็นสายใยจากผู้ให้คือคฤหัสถ์ และผู้รับคือสงฆ์มาเป็นเคล็ดความเชื่อว่า จะทำให้เงินทองไหลมาไม่ขาดสาย เงินทองไม่ขาดมือนั่นเองค่ะ

ถวายบาตร อีกหนึ่งคติความเชื่อของการปลดเปลื้องหนี้กรรม เพราะบาตรนั้นพระสงฆ์ใช้บิณฑบาต โปรดสัตว์รับอาหารทุกๆวัน จึงมีความเชื่อว่า หากถวายบาตรด้วยแล้วจะทำให้มีกินมีใช้ไม่ขัดสน ไม่อดอยาก  สามารถบรรเทาปัญหาด้านการเงินได้ โดยเมื่อถวายบาตรแล้ว ก็ควรใส่บาตรเป็นประจำ เพื่อลดความตระหนี่ถี่เหนียวของตนเองไปด้วย

ถวายย่าม ใครที่มีประสบปัญหา การเงินรั่วไหล เก็บเงินไม่อยู่ หรือไม่สามารถรักษาเงินทองไว้ได้  มีความเชื่อว่า ให้ถวาย “ย่าม” เป็นหนึ่งในสังฆทาน เพราะการถวายย่ามเป็นการให้กระเป๋าในการเก็บสิ่งของต่างๆของพระสงฆ์ ไม่ให้สูญหาย เมื่อเราได้ให้อย่างไร ก็ย่อมได้รับสิ่งนั้น คือ การเงินไม่รั่วไหล เก็บเงินอยู่ และสามารถรักษาทรัพย์สมบัติไว้ได้นั่นเอง

ถวายสังฆทานเป็นข้าวสารให้มากกว่าน้ำหนักตัวของเรา ๑ กิโลกรัม โดยวิธีนี้นิยมปฏิบัติกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งเชื่อว่าเป็นการใช้หนี้กรรมเก่าในอดีต เป็นผลให้บรรเทาวิบากกรรมด้านการเงินในปัจจุบันได้ โดยให้เตรียมสังฆทานซึ่งมีของใช้ทั่วไป ๑ ชุด พร้อมกับข้าวสาร เช่น หากเรามีน้ำหนัก ๔๐ กิโลกรัม ก็ให้ถวายข้าวสาร ๔๑ กิโลกรัม เป็นต้น และสามารถถวายได้เรื่อยๆโดยไม่จำเป็นว่า ต้องถวายครั้งเดียว  เช่น รอบนี้ถวายไป ๒ กิโลกรัม รอบหน้าและรอบต่อๆไปของการทำบุญก็ถวายไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบ ๔๑ กิโลกรัม แต่มีข้อแม้ว่า ต้องถวายให้ครบตามจำนวนภายใน ๓ เดือนค่ะ

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่ :


ช่วยแชร์ด้วยนะคะ